เพื่อนส่งข่าวมาทางไลน์ วัดเอี่ยมวรนุช ย่านบางขุนพรหม ถูกเวนคืนที่ดินหน้าวัด ไปทำสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เขาเป็นห่วงแทนผมว่า หลวงพ่อพระอีบาง หน้าโบสถ์ จะได้อยู่ที่เดิมอีกหรือเปล่า
หลวงพ่อเป็นพระปูนปั้น ปางยืนประทานพร เดิมทีท่านอยู่บนยอดเขา อำเภอหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์
ราวๆปี 2524 เกิดฝนแล้งติดต่อกันสามปี ชาวบ้านเชื่อกันว่าหลวงพ่อ เป็นต้นเหตุ…แอบไปนิมนต์ท่านขึ้นรถ เอาท่านไปทิ้งเสียให้ไกล
จุดแรกท่านถูกทิ้งที่ไหน…ไม่รู้ รู้กันว่า ชาวบ้านละแวกนั้นเจอ ก็นิมนต์ท่านไปทิ้งต่อ และทิ้งต่อๆกัน จากนครสวรรค์ ไปพิจิตร กำแพงเพชร หรือไปถึงสุโขทัย?
สองทุ่มคืนนั้น ผมยังจำได้ ฝนตกพรำๆ ชัยชนะ เทียนสันต์ เพื่อนนักข่าวฯ เดินขึ้นมาถึงโต๊ะข่าวไทยรัฐ บอกว่า ช่วยหาวัดให้หลวงพ่อพระอีบางได้จำพรรษาที…ตอนนี้ ท่านอยู่ในรถสองแถวที่เช่ามา จอดอยู่ลานจอดรถโรงพิมพ์
สภาพของหลวงพ่อ…แขน ขา หัก เกิดจากการถูกอุ้มไปทิ้งแล้วทิ้งอีก ดูแล้วเศร้าหมอง ผมเขียนข่าวจบตามหน้าที่แล้ว ก็มีงานต่อ
เรื่องที่เพื่อนนักข่าวเล่า ได้หลวงพ่อขึ้นรถมาแล้ว แวะเวียนไปหาวัด ตั้งแต่ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี…ไม่มีสมภารสักวัดยอมรับท่านไว้เลย
เออ…พระท่านก็เชื่อว่า หลวงพ่อพระอีบาง เป็นกาลกิณี ทำให้ฝนแล้ง เหมือนชาวบ้าน งานเฉพาะหน้า ผมจะต้องหาวัดให้หลวงพ่อได้จำวัด อย่างน้อยสักคืน
หัวหน้าข่าวหน้าหนึ่ง คุณโรจน์แนะให้โทร.ไปหาสมภารวัดเอี่ยม สหายธรรมร่วมสำนักสามเณร “มหาคำนึง” ก็หลุดปากรับ
สายวันรุ่งขึ้น สมภารวัดแถวบางปิ้ง สมุทรปราการ โทรศัพท์มา แสดงเจตนาจะขอรับหลวงพ่อไว้ แต่พอผมโทร.ไปถึงวัดเอี่ยม สมภาร… ท่านว่า “เห็นจะไม่ได้แล้วล่ะโยม”
หลวงพ่อพระอีบาง มีชาวบ้านศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์ท่านเรียบร้อย งดงามทั้งองค์ แล้วนิมนต์ท่านไว้หน้าโบสถ์ ญาติโยมละแวกนั้น แห่กันมากราบไหว้บูชา มีเงินเข้าตู้บริจาคเช้าวันนั้นแสนกว่า
สัปดาห์ต่อมา กรุงเทพฯก็เกิดฝนตกหนัก ระดับที่พลตรีจำลอง ศรีเมือง ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเป็นฝนพันปี
ข้อครหาหลวงพ่อพระอีบาง เป็นต้นเหตุให้ฝนแล้ง ก็จางหายไป เคราะห์ดี ที่ไม่มีใครหาว่าท่านเป็นต้นเหตุให้น้ำท่วมหนัก ขนาด “มหาน้ำแห้ง” เอาไม่อยู่
เรื่องของหลวงพ่อพระอีบาง ที่เจอข้อหากาลกิณีจากชาวบ้าน แอบอุ้มท่านไปทิ้ง ตรงกันข้ามกับเรื่อง“พระบาง” พระทองคำที่สมัย ร.1 สยามไปยึดมาจากเมืองลาว มีข่าวลือว่าท่านเป็นต้นเหตุให้ฝนแล้ง ร.1 นิมนต์ท่านกลับลาว
สมัย ร.3 แม่ทัพสยามก็ไปนิมนต์ท่านมาอีก เจอข่าวลืออีก ต้องคืนลาวเป็นครั้งที่สอง
ทั้งหลวงพ่อพระอีบาง ทั้งหลวงพ่อพระบาง ที่ลาวหวงถึงขนาดตั้งเป็นชื่อเมืองหลวงพระบาง…ดูๆไป ชะตากรรมท่านก็ใกล้เคียงกัน คือเจอข่าวลือ ทำให้ “ชีพจรลงเท้า” ต้องพเนจรร่อนเร่ ไปอยู่เสียหลายเมือง
“พระบาง” ครั้งที่ผมไปไหว้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์ อดีตวังเจ้ามหา ชีวิตลาวที่หลวงพระบาง ท่านลงหลักปักฐานมั่นคง คงไม่มีใคร นิมนต์ท่านไปต่างบ้านต่างเมืองอีก
ส่วนหลวงพ่อพระอีบาง…ปัญหาน่าจะมีว่า วัดเอี่ยมวรนุชนั้น เล็กมากมีที่ดินแค่สองไร่ เจอเวนคืนจากหน้าวัด 6 เมตร ไม่รู้ว่าชะตากรรมหนนี้ หลวงพ่อจะถูกนิมนต์ต่อไปอยู่ตรงไหน
ผมเชื่อของผมว่า ถ้าหลวงพ่อมีใจคิดได้เหมือนชาวบ้าน คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก วัดเอี่ยมฯแม้เหลือที่น้อยลงแต่ที่คงมีพอให้หลวงพ่ออยู่ เป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านต่อไป
สำหรับพระ ไม่ว่าพระปูนพระทองคำ หรือกระทั่งพระสงฆ์ การผ่านฝนแล้ง ผ่านน้ำท่วมมาได้ เจอชะตากรรม วัดถูกเวนคืนที่ดินซ้ำ ถือกันว่าเป็นการบำเพ็ญบารมี.
กิเลน ประลองเชิง