เผยแพร่:
ปรับปรุง:
เมียน้อยออกสื่อขอโทษ ฉกสิบตำรวจเอก อ้างความรักที่มีให้กัน จึงยอมทำทั้งที่รู้ว่าผิด ตอนนี้ได้รับผลมาแล้ว ทั้งอายทั้งเครียดทั้งตกงาน แต่ภรรยาหลวงฟาดกลับ “ไม่ขอรับคำขอโทษ” ย้ำอย่าว่าใจร้าย สายเกินไปแล้ว ถ้าสำนึกก็ควรคิดได้ตั้งแต่สวมชุดเจ้าสาว ย้ำ ขอเป็นเงินสดเท่านั้น
วันนี้ (20 ก.ค.) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาหลวง อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท พร้อมกับแม่สามี บุกเข้าไปในงานมงคลสมรสงานหนึ่งที่มี “สิบตำรวจเอก” นายหนึ่ง อายุ 34 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท เป็นสามีของตน กำลังทำพิธีผูกข้อมือกับเจ้าสาวอีกคนหนึ่ง ก่อนที่จะแสดงใบทะเบียนสมรสชื่อของเจ้าบ่าวกับตนมาแสดงในงาน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลท่าชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดชัยนาท โดยเรื่องนี้ภรรยาหลวงได้ฟ้องเรียกค่าทดแทนต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาทแล้ว ขณะที่ฝ่ายชายกราบขอโทษทุกคน รวมทั้งทางครอบครัวและฝ่ายหญิง ระบุว่า เป็นความผิดของตนคนเดียว ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ส่วนจะกลับมาคืนดีหรือไม่ มาถึงจุดนี้ขออยู่ตรงกลางดีกว่า ส่วนลูกสาวทั้งสองยืนยันว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เจ้าสาวป้ายแดงคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า รู้จักและชอบพอกับสิบตำรวจเอกนายนี้มาระยะหนึ่ง ด้วยความรักที่มีให้กันจึงยอมทำในสิ่งที่รู้ตัวว่าผิดเรื่อยมา กระทั่งมาถึงพิธีแต่งงาน แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็อยากขอโทษสังคม ขอโทษครอบครัวภรรยาหลวง พ่อแม่และญาติของตนเอง ยืนยันว่า เรื่องนี้ตนกับฝ่ายชายขอรับผิดไว้เอง อย่าไปโทษหรือมองครอบครัวหรือญาติๆ ของตนว่าไม่ดีหรือรู้เห็นเป็นใจ ตนเองก็ได้รับผลจากการกระทำของแล้ว ทั้งอาย ทั้งเครียด และต้องตกงาน เพราะทางร้านทองที่เป็นนายจ้างประกาศให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตนไม่โทษใคร โทษตัวเอง แต่ก็ยืนยันว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะความรักที่มีต่อกัน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่คิดอะไร เพราะยังเครียดและวิตกกังวลกับเรื่องที่ต้องเผชิญ ในวันนี้จึงออกมาขอโทษอย่างจริงใจ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายภรรยาหลวงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ไม่ขอรับคำขอโทษค่ะ อย่าหาว่าใจร้ายเลย มันสายไปแล้วสำหรับคำขอโทษ คุณควรสำนึกได้ก่อนจะแต่งชุดเจ้าสาว” และยังแชร์ข้อความจากทนายความพร้อมระบุว่า “ตามนั้นค่ะ คำขอโทษ ขอเป็นเงินสด”