นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการแพร่ระบาดและการติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังจากมีการเปิดภาคเรียนในหลายจังหวัดนั้น จากรายงานในเบื้องต้น พบว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ติดจากบุคคลในครอบครัว ซึ่งหากพบว่าพ่อแม่มีความเสี่ยงสูงหรือเป็นผู้แยกกักตัว ต้องอยู่ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆทั้งเด็ก ผู้มีโรค ประจำตัว และผู้สูงอายุภายในบ้าน โดยควรปฏิบัติดังนี้ 1.ให้หยุดงานไม่ออกไปนอกบ้านหรือที่พักอาศัย อย่างน้อย 14 วัน เลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่คลุกคลีกับเด็ก ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุในบ้านโดยเด็ดขาด 2.กินอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุกสะอาด แยกการกินอาหารร่วมกัน ถ้าสั่งอาหารแบบดีลิเวอรีให้
จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อออกมารับอาหาร ทำความสะอาดมือหลังการรับอาหารจากคนขนส่งอาหาร และควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดี 3.ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา กรณีการใช้ห้องน้ำ หากเป็นไปได้แยกใช้ห้องน้ำห้องส้วมออกจากผู้อื่น แต่หากไม่สามารถแยกห้องได้ให้ผู้อื่นใช้ห้องน้ำก่อน ส่วนผู้แยกกักตัวใช้เป็นคนสุดท้าย ให้ทำความสะอาดและเปิดหน้าต่างระบายอากาศ
“ทั้งนี้ ในส่วนสถานศึกษาที่ยังเปิดให้มีการเรียนการสอน ขอให้คุมเข้มตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ครู เด็ก ต้องประเมินความเสี่ยงผ่านระบบไทยเซฟไทย ก่อนออกจากบ้านทุกวันโรงเรียนต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคในสถานศึกษา และต้องรีบแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและรายงาน ต่อผู้บริหาร ผู้เกี่ยวข้องต่อไป” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ส่วนศาสนสถาน ได้แก่ วัด โบสถ์ มัสยิดและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ได้ประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus จำนวนทั้งสิ้น 12,198 แห่ง ผ่านเกณฑ์จำนวน 10,484 แห่ง และประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 1,714 แห่ง ซึ่งที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 3 อันดับแรก คือ 1.การกำหนดเส้นทางเข้า-ออก 2.การทำความสะอาดสถานที่ และ 3.การคัดกรองผู้เข้ามาในศาสนสถานทุกคน จึงขอให้ศาสนสถานที่ยังไม่ผ่านการประเมินได้ปรับปรุงและพัฒนาในส่วนที่ต้องดำเนินการดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการในศาสนสถานทุกแห่ง และสำหรับศาสนสถานที่ผ่านการประเมินแล้วนั้น ยังคงต้องคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ และประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่กำหนดให้ปฏิบัติด้วย.