รัฐบาลเดินหน้างานดูแลคุณภาพน้ำ สิ่งแวดล้อม กำจัดผักตบชวา รับฤดูฝนและน้ำหลาก พร้อมเผยผลตรวจคุณภาพน้ำจาก โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ มั่นใจได้ไร้สารเคมีเจือปน
วันที่ 11 ก.ค. 64 พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงานประจำรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ห่วงใยประชาชนเรื่องสถาพแวดล้อม และน้ำกินน้ำใช้ โดยเฉพาะช่วงนี้ โควิด-19 ระบาดและเข้าสู่ฤดูฝนน้ำหลาก จึงสั่งทุกหน่วยภายใต้การดำเนินการ กอนช. เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกหน่วยได้เร่งรัดการปฏิบัตตามสั่ง สรุปรายงานความคืบหน้ามา ดังนี้
กอนช. ติดตามความก้าวหน้าการตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และระเบิด บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ การประปานครหลวง เก็บตัวอย่างน้ำประปาจำนวน 8 จุด บริเวณใกล้เคียงโรงงานตรวจสอบแล้ว ไม่มีการปนเปื้อนของสารสไตรีน
ส่วนกรมควบคุมมลพิษ เก็บตัวอย่างน้ำบริเวณรอบที่เกิดเหตุ พบว่า พื้นที่รอบโรงงาน ในรัศมี 1 กิโลเมตร อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เก็บน้ำตัวอย่างในพื้นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ขณะที่กรมชลประทาน ปิดประตูระบายน้ำฝั่งตะวันตก 4 คลอง ส่วนท้องถิ่นปิดเส้นทางน้ำฝั่งตะวันออก เพื่อควบคุมการระบายน้ำที่อาจมีการปนเปื้อนไม่ให้ลงคลองชลประทานและออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
พล.ร.อ.พิเชษฐ กล่าวถึงสรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง ตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนแม่น้ำสายหลักภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำน้อยไปถึงระดับปกติ ภาคกลางมีน้ำน้อยถึงระดับปกติ แนวโน้มทรงตัว ภาคใต้ ภาคตะวันออกน้ำน้อยถึงระดับปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 8 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 1 แห่ง (อ่างฯ น้ำพุง)
นอกจากนั้น กอนช. ติดตามการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 ดังนี้
มาตรการที่ 6 ขุดลอกแม่น้ำ คูคลอง กำจัดผักตบชวาเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและรองรับน้ำหลาก ในจังหวัดต่างๆ เช่น สระบุรี ปทุมธานี ชัยนาท สุโขทัย เพชรบูรณ์
มาตรการที่ 8 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำโดยกรมทรัพยากรน้ำ สำรวจโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยปรง ช่วง 3 อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ประชาชนได้รับประโยชน์ 500 ครัวเรือน.