©
จากกรณีข่าวสัมพันธ์ชู้สาวของข้าราชการตำรวจ ในพื้นที่ จ.ชัยนาท ซึ่งล่าสุดทาง พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองชัยนาท ได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นไม่ได้เป็นคดีความอาญา แต่เป็นเรื่องที่ผิดวินัย ซึ่งต้องสอบสวนก่อนว่า ผิดในระเบียบข้อไหน ก่อนจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยวิธีการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยและป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย พ.ศ.2549 ได้กำหนดมาตรฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และได้กำหนดโทษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาว เอาไว้ดังนี้
1. ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยา หรือมีสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย โดนกักขัง 30 วัน, 2. ได้หญิง หรือชายเป็นภรรยา หรือสามีแล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย โดนกักขัง 30 วัน, 3. จดทะเบียนสมรสซ้อน โดนกักขัง 30 วัน, 4. ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป โดนกักขัง 30 วัน, 5. ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในใบสำคัญการหย่าเกี่ยวกับการอุปการะบุตร ความผิดครั้งแรก ภาคทัณฑ์ ความผิดครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นการหย่ารายเดียวกันหรือไม่ก็ตาม กักยาม 3 วัน และความผิดครั้งที่สามและครั้งต่อไป กักยาม 3 วัน และพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวน ม.101 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547
สามารถติดตามรายละเอียด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ทั้งหมดได้ที่นี่
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2552 ยังมีการแก้ไขแนวทางการลงโทษทางวินัยร้ายแรง ในข้อ 10 เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ในข้อ 10.1 จากเดิมว่า “เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) เป็น “ชู้หรือมีชู้ หรือมีพฤติการณ์เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี)
ติดตามรายละเอียดระดับโทษและบางกรณี ที่มีการสั่งเป็นการเฉพาะได้ที่นี่