วันที่ 7 ต.ค.64 นาวาโท รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าท่าอยุธยาได้ออกประกาศควบคุมการจราจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเป็นการเฉพาะคราวแล้ว หลังจากชลประทานเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท และเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นเหตุให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระราม 6 มีปริมาณน้ำสูงขึ้นและล้นตลิ่ง และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ประกอบกับ ทำให้เกิดกระแสน้ำไหลเชี่ยวและรุนแรง ซึ่งจากนี้ไปหากชลประทานยังจำเป็นเร่งด่วนในการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนพระราม 6 เกินกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงจำเป็นต้องประกาศเพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำและป้องกันไม่ให้คลื่นจากเรือลากจูง เรือลำเลียงสินค้า โดยกำหนดเขตควบคุมการเดินเรือและกำหนดความเร็วของการเดินเรือ จนกว่าจะเปลี่ยนแปลง คือตั้งแต่แยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยาไปจนถึงอำเภอนครหลวง
และตั้งแต่แยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปถึงจังหวัดอ่างทอง ส่วนการจราจรทางน้ำ ห้ามเรือลากจูงลำเลียงสินค้า แล่นขึ้นทวนน้ำผ่านบริเวณดังกล่าว ให้เรือลากจูงเรือลำเลียงสินค้าแล่นตามน้ำทำการลากจูงเรือลำเลียงสินค้าได้ไม่เกินพวงละ 3 ลำ และห้ามบรรทุกสินค้าเกินกว่าเจ้าท่ากำหนด นอกจากนี้ ให้ระมัดระวังความพร้อมของเรือ เครื่องยนต์ และความแข็งแรงของเชือกทุกเส้นในการลากจูง หากนายเรือหรือผู้ควบคุมเรือฝ่าฝืน จะถูกระวางโทษปรับตั้งแต่ 500 – 5000 บาท และถูกสั่งยึดประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรืออีกด้วย