เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 สำนักเครื่องจักรกล เข้าเปิดทางน้ำ โดยใช้เครื่องจักรกลประเภท รถขุดไฮดรอลิค แบบลงโป๊ะ จำนวน 1 ชุด เข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณแม่น้ำท่าจีน เหนือประตูระบายน้ำท่าโบสถ์ ในเขตพื้นที่ ตำบลสามง่ามท่าโบสถ์ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ซึ่งมีวัชพืชไหลเข้ามาสะสมหนาแน่น ทำให้น้ำเกิดการเน่าเสีย และสร้างความลำบากแก่ประชาชน มีวัชพืชสะสมประมาณ 15,000 ตัน ซึ่งได้กำจัดวัชพืชไปแล้ว ประมาณ 9,000 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 24 มีนาคม นี้
ในวันเดียวกันนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของ ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 6 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 6 นำเรือขุดชนิดหัวขุดและท่อส่งดิน ขนาดท่อส่งดินไม่เกิน 14 นิ้ว พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินงานขุดลอก เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ บริเวณเหนือเขื่อนแม่กลอง คลองประปา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานชลประทานที่ 13 ปริมาณดิน 170,000 ลูกบาศก์เมตร ดำเนินการแล้ว 83% และยังได้นำเรือกำจัดวัชพืชชนิด แบคโฮลงโป๊ะจำนวน 1 ลำ เข้าดำเนินงานกำจัดวัชพืชและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ คลองบางขนาก ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีปริมาณวัชพืช 14,700 ตัน ดำเนินการแล้ว 36% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2564 นี้ เพื่อเป็นบรรเทาภัยอันเนื่องมาจากน้ำให้กับประชาชน และเเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้ผักตบชวาแพร่ขยายพันธุ์ของผักตบชวา
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ด้านภัยแล้งในหลายพื้นที่ เช่น การติดตั้งเครื่องสูบน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสักเพื่อส่งน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค พร้อมขอความร่วมมืองดการสูบน้ำเพื่อทำนารอบที่ 2 เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อีกทั้งได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ ลงพื้นที่กำจัดวัชพืชและผักตบชวาในทางน้ำชลประทานและทางน้ำสายหลักต่าง ๆ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน รวมทั้งแม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำบางปะกง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำให้ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อกิจกรรมต่างๆ ตลอดช่วงฤดูแล้งนี้