วันที่ 5 ม.ค. 65 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี ปีละ 5 สนาม แต่ปี 2564 สมาคมฯ จัดการแข่งขันได้เพียง 2 สนาม ประกอบด้วย สนามที่ 1 เมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่สนามเสมอกัน เซอร์กิต จังหวัดสุพรรณบุรี และสนามที่ 2 เมื่อวันที่ 3-4 เมษายน 2564 ที่สนามเขาขยาย จังหวัดชัยนาท แต่หลังจากนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดอย่างหนัก ไม่สามารถดำเนินการจัดการแข่งขันอีก 3 สนามที่เหลือได้ ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬายุวชนและเยาวชนเป็นหลัก จึงจบการแข่งขันแค่ 2 สนาม ดังที่ทราบโดยทั่วกัน
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับในปี 2565 นี้ บรรดาแฟนคลับจากสโมสรต่างๆ ทั่วประเทศได้เสนอมาว่าขอให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย โดยยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด ดังนั้น สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงกำหนดจัดการแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2565 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) จำนวน 5 สนาม ประกอบด้วย สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม, สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์, สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม, สนามที่ 4 ระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน และสนามที่ 5 ระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม โดยจะแข่งขันที่สนามเขาขยาย จังหวัดชัยนาท ทั้ง 5 สนาม
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานานาชาติ หรือ ยูซีไอ ให้การแข่งขันสนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม เป็นรายการระดับ CN หรือชิงแชมป์ระดับประเทศ และสนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันในระดับ C1 ซึ่งนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขันในรุ่นประชาชนชาย-หญิง และรุ่นเยาวชนชาย-หญิง จะได้สิทธิ์สวมเสื้อสีขาวที่มีลายธงชาติไทย ตามระเบียบของ ยูซีไอ ไปแข่งขันรายการต่างๆ ในฤดูกาล 2023 ที่ ยูซีไอ รับรองได้ทั่วโลก รวมทั้งได้คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการคัดเลือกนักกีฬาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ทำหนังสือถึง นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เพื่อกำหนดให้มีการประชุมหารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ทั้ง 5 สนาม ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 18 มกราคม เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดชัยนาท ตนเองและคณะทำงานฝ่ายเทคนิคฯ จะเดินทางไปร่วมประชุมในวันเวลาดังกล่าว โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ จะเข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดร่วมกัน
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้หารือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธาราณสุข กำหนดมาตรการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 โดยนักกีฬาในระดับยุวชนและเยาวชน ที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี จะต้องได้รับวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 2 เข็ม ก่อนการแข่งขันเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ส่วนนักกีฬายุวชนที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน จะต้องนำชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มายังจุดคัดกรองที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายแพทย์ของสมาคมฯ และสาธารณสุขของจังหวัด ทำการตรวจ และออกเอกสารรับรองผลการตรวจ รวมไปถึงนักกีฬาระดับประชาชน และนักกีฬาอายุระหว่าง 12-18 ปี ถึงแม้จะได้รับวัคซีนแล้ว ก็ต้องนำชุด ATK เพื่อมาตรวจยังจุดคัดกรองเช่นเดียวกัน
“สำหรับนักกีฬายุวชนที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ทั้งชายและหญิง สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะอนุญาตให้มีผู้ปกครอง 1 คน ต่อนักกีฬา 1 คน เข้าไปดูแลนักกีฬาบริเวณจุดปล่อยตัวได้ โดยผู้ปกครองจะต้องลงทะเบียนมาในระบบการรับสมัคร และต้องนำชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายแพทย์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ และสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท ทำการตรวจ และออกเอกสารรับรองผลการตรวจ เช่นเดียวกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีม ส่วนนักกีฬารุ่นอายุ 7 ปีขึ้นไปทั้งชายและหญิง ไม่อนุญาตให้มีผู้ปกครองเข้าไปในบริเวณจุดปล่อยตัว แต่จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ฝึกสอนที่ลงทะเบียนในระบบการรับสมัคร เป็นผู้ดูแลนักกีฬาเท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาระยะห่าง และจำกัดจำนวนคนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19” พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ด้านการสมัครเข้าแข่งขัน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเปิดรับสมัครทางเว็บไซต์เท่านั้น ไม่มีการรับสมัคร ณ บริเวณสนามแข่งขัน นอกจากนั้นนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมทุกคนจะต้องรายงานบันทึกการเดินทาง (Timeline) ล่วงหน้าก่อนการแข่งขัน 7 วัน รวมทั้งต้องระบุชื่อโรงแรมที่พักในระหว่างการแข่งขัน หรือการเดินทางไป-กลับให้ชัดเจน และกรอกรายละเอียดในระบบการสมัครฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสามารถตรวจสอบได้ รวมไปถึงต้องทำบัตรอนุญาตการแข่งขัน หรือ License และทำประกันอุบัติเหตุทุกคน โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้แจ้งรายละเอียดไว้ในเว็บไซต์ www.thaicycling.or.th เรียบร้อยแล้ว หรือสอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.