ลูกหนังลีกอาชีพเมืองไทย ทั้งไทยลีก 1 ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 รูดม่านปิดฉากหมดแล้วล่ะครับ แสดงความยินดีกับทีมแชมป์และรองแชมป์ลีกพระรอง ทั้ง หนองบัว พิชญ เอฟซี กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ซิวตั๋วขึ้นสู่ลีกสูงสุดไปแล้วก่อนหน้านี้
ยังเหลืออีก 1 ที่นั่งสุดท้าย ซึ่งอันดับ 3-6 คือ นครปฐม ยูไนเต็ด, ขอนแก่น ยูไนเต็ด, แพร่ ยูไนเต็ด และ ชัยนาท ฮอร์นบิล จะต้องแย่งชิงกันในการเพลย์ออฟ ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 24 เม.ย. จึงจะครบถ้วนกระบวนความ
ส่วนไฮไลต์จริงๆของฟุตบอลไทยวีกนี้ จะไปอยู่ที่เกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของบอลถ้วย “น็อกเอาต์” เอฟเอ คัพ ที่จะดวลแข้งกันทั้ง 4 คู่ 4 สนาม ในวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.นี้
ซึ่งแต่ละทีมต่างหมายมั่นปั้นมืออย่างเต็มที่ เพราะนอกจากเงินรางวัลก้อนโต 5 ล้านบาทที่รออยู่แล้ว สำคัญที่สุดคือโควตา ‘เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2022’ รอบแบ่งกลุ่ม ที่ทุกทีมต่างปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง!!
ดังนั้นวันนี้…ผมเลยขออนุญาตทำตัวเป็นกูรู…ฟันธงเกมฟาดแข้งในแต่ละคู่ ว่าจะออกหน้าไหน อย่างไร?
เริ่มที่ดาร์บี้แมตช์ภาคตะวันออก ชลบุรี เอฟซี เปิดรังชลบุรี สเตเดียม รับการมาเยือนของ ตราด เอฟซี ที่ตกชั้นไปแล้ว
ต้องบอกว่าคู่นี้ศักยภาพโดยรวมสูสีกัน แต่ ฉลามชล ภาษีดีกว่าที่เล่นในบ้านตัวเอง น่าจะเบียดชนะไปได้แบบหืดหน่อย
ส่วนคู่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ปักหลักเล่นในบ้านเจอกับ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ที 3 เพียงทีมเดียวที่หลุดมาได้ถึงรอบนี้
ทีมเยือนหวังเป็น “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” อยู่เหมือนกัน แต่คงยากหน่อยเพราะกว่างโซ้งกะลุ้นแชมป์ถ้วยนี้เต็มเหนี่ยว เพื่อไปลุย ACL ให้ได้
ฟันธง เจ้าถิ่น เหนือกว่าทุกประตู คงผ่านเข้าไปตัดเชือกได้ไม่ยากเย็น
บิ๊กแมตช์ที่ทรู สเตเดียม “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เฝ้ารังรับแข้ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รองแชมป์เก่าเมื่อปี 2019
คู่นี้เจอกันในไทยลีกบ้านใคร บ้านมัน ผลัด กันแพ้ ผลัดกันชนะทีมละแมตช์ด้วยสกอร์ 2-1
เชื่อในความเก๋าของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน มีดีพอที่จะพาลูกทีมผ่านเข้าไปลุ้นในรอบรองได้ในท้ายที่สุด
และเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ที่สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องโฟกัสอย่างไม่ต้องสงสัย ก็คือการโคจรมาพบกันของคู่รักคู่แค้น (ตลอดกาล) ของฟุตบอลไทยในทศวรรษนี้
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์ไทยลีก ที่ฟอร์มกำลังมาแรงได้ที่ เตรียมเปิดช้าง อารีน่าของตัวเอง ทำศึกล้างตากับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
นัดนี้ อเล็กซานเดร กามา กุนซือมือเก๋าของเซราะกราว ตั้งตารอ ที่จะสางไฟแค้นในทรวงให้จงได้ หลังลูกทีมของ “โค้ชโอ้” มาริโอ ยูรอฟสกี เคยมาฝากรอยแผลที่จำไม่ลืมเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ด้วยการบุกมาพลิกชนะพวกเขาคาบ้าน 3–2
แถมเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กามา กะจะพายอดทีมอีสานใต้บุกมาเช็กบิลคืนซะหน่อย ที่ไหนได้เจอทีเด็ดแข้งยังบลัดของเมืองทองฮึด ตีเสมอ 2-2 หน้าตาเฉย
ดังนั้นการโคจรมาเจอกันเป็นคำรบสามของ 2 ยอดทีม จึงเป็นเสมือนสงครามลูกหนังที่ไม่มีใครยอมใครแน่
จะล้างแค้น หรือย้ำแค้น เดี๋ยวเสาร์นี้ ได้รู้คำตอบ!!!
บี บางปะกง