ร้านอาหารตามสั่งร้านดัง ที่ชัยนาท ประกาศเลิกขายเมนูหมู จนกว่าราคาหมูจะลง เพราะแบกภาระต้นทุนไม่ไหว ขึ้นราคาลูกค้าก็เปลี่ยนไปสั่ง ไก่ เป็ด ปลาหมึก กุ้งแทน รับหากยังไม่ดีขึ้นคงได้เลิกขายถาวร
จากสถานการณ์ เนื้อหมูราคาแพง และเนื้อหมูขาดตลาดตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 64 ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาตามเขียงหมู ตามแผงต่างๆ นั้น หมูเนื้อแดงมีราคาสูงขึ้นจากที่เคยซื้อปกติ 160 บาท เป็น 200 บาท และบางแผงราคาเริ่มทะลุเกิน 200 บาท เพิ่มไปจนถึง ราคา 220-250 บาท เลยทีเดียว ซึ่งสวนทางกับค่าครองชีพ ทำให้บรรดาร้านอาหารต่างๆ ก็เริ่มมีความตึงเครียด บางร้านก็ต้องรีบปรับตัว บางร้านถึงกับต้องปิดชั่วคราว
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้าน “ครัวลงพุง” ร้านดัง ในพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท ต้องปิดป้ายประกาศ “เลิกขายเมนูหมู จนกว่าราคาหมูจะลดลง” เพราะก่อนหน้านี้ เพิ่มราคาเมนูหมู จานละ 10 บาท ลูกค้าก็หันไปกินเมนูพวกไก่ กุ้ง เป็ด และปลาหมึกแทน เพราะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 10 บาท จึงขึ้นป้ายแบบฟ้าผ่า เลิกขายทันที
นางจริยา เอี่ยมละออ อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางร้านเลิกขายเมนูหมูแล้วเพราะ ทำขายแล้วไม่พอต้นทุน ขายแพงก็ไม่มีคนกิน ยิ่งหมูกรอบ ที่มีขาประจำมาซื้ออยู่บ่อยๆ ทางร้านจำเป็นต้องยกเลิก เพราะสู้ราคาไม่ไหว ไม่คุ้มค่าเหนื่อย แค่วิธีทำก็ยาก ต้องใช้เวลาแล้ว ปกติก็ได้กำไรไม่มาก แต่ถ้าขายราคาเดิมแล้วเท่าทุน เหนื่อยเท่าเดิม ก็เลิกขายไปก่อนดีกว่า ปกติ ขายจานละ 30 บาท แต่ถ้ามาขาย 40 บาท แล้วได้ปริมาณเดิมลูกค้าเลยเลี่ยงไปกินอย่างอื่นหมด ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็คงเลิกขายไปถาวร
เจ้าของร้านครัวลงพุง จ.ชัยนาท กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวคิดว่าหมูแพงน่าจะมาจากหมูขาดตลาด และเป็นโรค สำหรับของที่แพงนั้น อยู่ที่ ราคาน้ำมัน ยิ่งน้ำมันแพง ค่าขนส่งก็ต้องแพงตาม อยากให้รัฐบาล ช่วยแก้ไขทั้งปัญหาราคาน้ำมันที่ขึ้นเกือบทุกอาทิตย์ และควบคุมเรื่องราคาเนื้อสัตว์ และราคาของอุปโภคบริโภคให้ประชาชน ลืมตาอ้าปากได้ในยุคโควิด-19 ระบาดเช่นนี้.