การดูภาพพระแท้ เป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้ เพื่อให้จดจำพิมพ์พระได้แม่นยำ เป็นหลักข้อแรกของการส่องพระ ถ้า พิมพ์ใช่ ค่อยดู เนื้อนอกเนื้อใน สภาพคราบกรุ เป็นลำดับต่อไป–ถ้า พิมพ์ไม่ใช่ อย่างที่เรียกว่า “ผิดพิมพ์” ก็วางกล้องได้เลย ไม่ต้องส่องต่อให้เสียเวลาทำมาหากิน
องค์ที่สองเป็น พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่ วัดใหญ่ชัยมงคล อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ยอดพระพิมพ์ เมืองกรุงเก่า ที่ค้นพบจากองค์พระเจดีย์ ที่สร้างเป็นที่ระลึกในการทำศึกชนช้างยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชของพม่า เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๔ โดย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สร้างพระพิมพ์บรรจุในเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคล ตามธรรมเนียมประเพณี
จนกระทั่งราวๆปี พ.ศ.๒๔๗๘ กรมศิลปากรมีประกาศขึ้นทะเบียน วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นโบราณ สถาน และเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ พระครูภาวนารังสี (เปลื้อง เริงวิเชียร) ปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้เปิดสำรวจองค์พระเจดีย์ (หลังมีผู้ลักลอบขุดหาสมบัติหลายครั้ง) พบ พระพิมพ์ หลายรูปแบบ
ที่มีเป็นจำนวนมากคือ พระขุนแผนเคลือบ พระพิมพ์ เนื้อดินขาว ผสมผง รูปทรงห้าเหลี่ยม ด้านหน้าเป็น พิมพ์พระปางสะดุ้งมาร ประทับนั่งภายในซุ้มเรือนแก้ว เคลือบน้ำยาอย่างเครื่องกระเบื้องจีน เฉพาะด้านหน้า ด้านหลังเปิดเห็น เนื้อดินขาวละเอียด มีรอยลายมืออยู่ทั่ว
แยกพิมพ์ได้เป็น ๓ แบบคือ ๑.พิมพ์ใหญ่ฐานสูง ๒.พิมพ์ใหญ่ฐานเตี้ย ๓.พิมพ์เล็กแขนอ่อน ทุกพิมพ์ได้รับความนิยม เป็นพระเครื่องอันดับ ๑ ของเมืองกรุงเก่า ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์มาก ทั้งด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เสริมอำนาจวาสนาบารมี เป็นผู้นำที่บริวารยำเกรง
ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๐๖ มีการค้นพบพระพิมพ์นี้อีก ที่ กรุวัดเชิงท่า จ.นนทบุรี และครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ ๒ ก.ย.๒๕๕๐ ยังได้มีการค้นพบ พระขุนแผนเคลือบนี้อีกครั้ง ที่วัดบ้านกลิ้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ราว ๓๐ องค์….องค์นี้ของ เสี่ยเพชรอิทธิ ชวลิตธำรง เป็น พระพิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ย กรุวัดใหญ่ชัยมงคล สภาพแชมป์ ที่ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ หลักล้านกลางๆ แต่ถึงมีจ่าย ก็หาเงินง่ายกว่าหาพระเยอะ
อีกสำนักเป็น พระคง กรุเก่า วัดพระคงฤๅษี อ.เมือง จ.ลำพูน ขุนพลพระเครื่องเมืองเหนือ เพราะมีชื่อเสียงมาก่อนพระเครื่องเมืองเหนืออื่นใด ดังมีหลักฐานปรากฏเป็นพระพิมพ์ที่สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ใช้บูชาติดพระมาลาออกทำศึก สงคราม ที่รู้จักกันในนาม “พระลำพูนดำ” ซึ่งก็คือ พระคงเนื้อสีดำ นั่นเอง องค์นี้ของ เสี่ยตะวัน พระลำพูน มืออาชีพสายตรงตัวจริง–เป็นพระกรุเก่า สีเนื้อน้ำตาล สแตนดาร์ดมาตรฐานนิยม
รายการที่สี่ คือ พระนางกำแพง เม็ดมะลื่น กรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พระพิมพ์เนื้อดินเผา ที่พบเกือบทุกกรุพระแห่งลานทุ่งเศรษฐี อาทิ วัดพระแก้ว วัดพิกุล วัดบรมธาตุ วัดป่ามืด ฯลฯ….ลักษณะฟอร์มทรง คล้ายๆ พระพิมพ์กลีบบัว แตกต่างที่องค์พระจะดู ล่ำกว่า ด้านหน้าเป็นองค์พระปฏิมา นั่งปางสะดุ้งมาร อยู่เหนือฐานขีด ด้านหลังมีเนื้ออูมมากกว่า และระหว่างใต้องค์กับฐานขีด จะมีตุ่มเนื้อนูนปรากฏ
สีเนื้อมีทั้ง ขาว แดง เหลือง น้ำตาล เขียว และดำ องค์นี้ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์ เป็น เนื้อน้ำตาล มาตรฐานความนิยม สภาพสมบูรณ์สวยเดิมขนานแท้ เชื่อกันว่าอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ครบเครื่อง ทั้งคุ้มครองป้องกันภัย มหาโชค มหาลาภ สมคำร่ำลือ “มีกูไม่จน” แบบหวังผลได้ไม่แพ้ “พระกำแพงซุ้มกอ” ทีเดียว
เคยทราบจากคนที่มีความศรัทธา พระเครื่องสกุลทุ่งเศรษฐี และใช้ พระกำแพงเม็ดมะลื่น บูชามาแต่ครั้งเริ่มประกอบอาชีพค้าขายสร้างตัว มีความเจริญก้าวหน้า ถึงปัจจุบัน มีฐานะมั่นคงขนาดเช่าบูชา พระกำแพงซุ้มกอ องค์งามๆ ถึง ๓ องค์ แต่ก็ยังคล้อง พระเม็ดมะลื่น องค์เดิม ไม่ยอมเปลี่ยน ด้วยเหตุผลความเชื่อมั่นว่า มีฐานะร่ำรวยมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะใช้ พระเม็ดมะลื่น องค์นี้องค์เดียว ทุกอย่างถึง “ลื่นไหล” ทำอะไรก็ราบรื่น
และแล้วก็ได้ดู พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๑๐ พระพิมพ์เนื้อผงผสมมวลสารมงคล ฝีพระหัตถ์ ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ร.9 ทรงจัดสร้างในสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘-๒๕๑๓
โดยทรงออกแบบ พิมพ์พระ รวบรวมมวลสาร ผสม และกดพิมพ์ ตกแต่งเองทุกองค์ ก่อนพระราชทานข้าราชบริพาร และทหารร่วมรบในสงครามเวียดนาม พร้อมใบประกาศกำกับ ลงลายพระหัตถ์ ลายเซ็นสด มีจำนวนรวมราว ๓ พันองค์
เป็นพระเครื่องทรงค่า ที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช บัญญัตินามให้เป็น “พระกำลังแผ่นดิน” องค์นี้ของ เสี่ยคำรณ สัยยะนิฐี เป็นพระสีเนื้อน้ำตาลแกมดำ พิจารณาพิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ความหนาด้านข้าง จุดตำหนิในพิมพ์ได้ว่าเป็นพระสร้างพระราชทานปี พ.ศ.๒๕๑๐ ที่ได้รับความนิยมเป็นพระยุคแรก ราคาสูงหลักล้าน–ยิ่งเป็นองค์งามสมบูรณ์สภาพเดิมๆอย่างองค์นี้ ฟังว่าราคาอยู่ที่เจ้าของกำหนดได้เรยย์
ตรงนี้ขอเล่าความหลัง ครั้งที่ สีกาอ่าง ยังเด๋อด๋า มาเขียน หน้าพระ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๙ (ถึงตอนนี้ก็ยังเด๋ออยู่) ว่าได้เขียนถึง พระสมเด็จจิตรลดา ด้วยความศรัทธา เพราะเป็นพระเครื่องหนึ่งเดียวที่ “พระเจ้าแผ่นดิน” ทรงสร้าง ….ก็จัดเต็ม ว่าสำคัญยังไง พอลงข่าวไปไม่นาน บรรดานักสะสมก็เจี๊ยวจ๊าวล้งเล้งกันใหญ่ บอกว่า พอ สีกาอ่าง เขียนไป ทำให้ต้องซื้อพระแพงขึ้น
เพราะจากที่ทหารชั้นผู้น้อย เคยเอาไปให้เช่า องค์ละสามสี่หมื่น (เมื่อ ๒๐ ปีก่อน) พอคนเริ่มเห็นความสำคัญ และคุณค่า เลยต้องเช่ากันเป็นแสน สองสามแสน….แต่บัดนี้ คนที่ต้องเช่าแพงเพราะข้าพเจ้า ก็ต้องดีใจ เพราะตอนนี้หลักล้านแร้ว
ตามมาด้วย พระปิดตา พิมพ์ปั้น ลอยองค์ เนื้อผงคลุกรัก หลวงพ่อแก้ว วัด เครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี องค์นี้เป็นพระดีพรีเมียม ที่ยากจะเจอ ด้วยแบบพิมพ์ที่มีความชัดเจนของรูปทรง เส้นศิลป์ และเนื้อมวลสาร ที่เรียกได้เป็นเนื้อครูชั้น ๑ ที่ เรียก เนื้อกะลา แบบนี้ ถ้าเป็น พิมพ์ใหญ่ หลังแบบ ราคาไปไกลหลายสิบล้านแน่นอน แต่ถึงเป็น พิมพ์ปั้น แบบองค์นี้ของ เสี่ยเพชรอิทธิ ชวลิตธำรง ราคาก็ต้องว่ากันหลายๆล้าน เพราะเป็นพระแท้ดูง่าย ใช่แน่ แท้ชัวร์
เข้าสนามเหรียญ อันแรก เป็น เหรียญหล่อพระพุทธ หลังยันต์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ๑ ในเหรียญหล่อโบราณเนื้อโลหะ ที่ได้รับความนิยมสูง เป็นพิมพ์พิเศษ ๑ เดียว ที่มีลักษณะด้านหน้าเป็นแบบ พิมพ์สมาธิฐานสูง ด้านหลังเป็น ยันต์นะ ขึ้นยอด หรือ นะปฐมกัลป์ ในตัว องค์นี้ของ เสี่ยสุธีร์ นาคทอง เป็นเนื้อโลหะผสม “ชินเงิน” ที่หายากมากส์
อีกเหรียญเป็น เหรียญหลังหนุมาน พ.ศ.๒๕๒๑ รุ่น ๓ อรหังเต็มนิยมสุด เนื้ออัลปาก้า หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จ.ชัยนาท พระเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงด้านวิชาอาคม ยุคกึ่งปีพุทธกาล ได้ชื่อเป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย…. ท่านเป็นศิษย์สืบทอดวิชาของ หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ สร้างชื่อเสียงแพร่หลาย ด้วย วิชาสักยันต์ ที่มีศิษย์อยู่ทั่วเมืองปากน้ำโพ และเมืองชัยนาท
และสร้างพระเครื่องของขลัง เช่น เหรียญทรงกลม รุ่นแรก พระสมเด็จแหวกม่าน พระสมเด็จปรกโพธิ์ และวัตถุมงคล ทั้ง ตะกรุด แหวน มีดหมอ ก็ล้วนมีประสบการณ์ด้านคุ้มครองป้องกันภัย เมตตาค้าขาย
เหรียญนี้ของ เสี่ยชัยพร ธัญญานิตย์ นักธุรกิจ อิมพอร์ตเครื่องจักรจากต่างประเทศ เป็น เหรียญรุ่น ๓ หลังหนุมานเชิญธง ที่ท่านสร้างไว้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ที่ถือว่าเลือกพระใช้ได้ถูกโฉลกกับอาชีพ หรือ ตรงโหมด เพราะ ยันต์หนุมานเชิญธง มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตำรามหาเวท ว่าเป็น ยันต์แห่งมหาอำนาจ ความสำเร็จ ที่มีการเดินทาง ผจญภัย ต่อสู้ แข่งขัน ซึ่งก็ตรงตามอาชีพ นักธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ
เหรียญรุ่นนี้ของ หลวงพ่อกวย จึงได้รับความนิยมจากนักธุรกิจพ่อค้า ที่ต้องมีการแข่งขันสูงตลอดเวลา เล่ากันว่ามีหลายท่านที่เป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงระดับชาติ แสวงหามาใช้บูชาประจำตัว ล้วนประสบความสำเร็จในอาชีพ เป็นเรื่องเล่าขานบอกต่อรุ่นสู่รุ่น ทำให้เป็นเหรียญพระเกจิฯ ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และก็หายากมากแล้ว ขอบอก
มาถึงเรื่องฮาๆ ปิดท้ายของ เสี่ยสมัย พ่อค้าพืชไร่ นักนิยมพระเครื่องนอกวงการ ก็เล่นหาซื้อขายแลก เปลี่ยนกับพรรคพวกมาแต่ครั้งเป็นนักศึกษามหา’ลัย เรียกได้ว่าได้เงินเรียนจบ รับปริญญา จากเงินซื้อขายพระเครื่องล้วนๆ
จึงเป็นความภาคภูมิใจที่ เสี่ยสมัย ชอบเล่าให้ลูกๆฟัง วันหนึ่งขณะกำลังเล่า ลูกชายถามว่า พ่อมีพระดีพระสวย แต่ขายไปหมด แล้วมีพระเหลือให้ผมใช้มั่งหรือเปล่า เสี่ยสมัย ตอบแบบโอ่ๆว่า พ่อมีเทคนิคการขายที่เหนือชั้น จึงยังมีพระดีๆเหลืออยู่ให้ลูกได้ใช้แน่นอน เป็นพระดีพระแท้ล้วนๆ แต่สภาพใช้ช้ำๆนะลูก
ลูกชายฟังแล้วเบ้หน้า บอกว่า ถ้าขายแบบนี้ ตอนนี้เพื่อนๆพ่อ ที่ได้พระแชมป์ไป คงรวยกว่าพ่อเยอะเลย เพราะเทคนิคเหนือชั้นที่ว่าคือ ขาย พระแชมป์ ใช้พระช้ำ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง