ท่านนายกฯ อีกไม่กี่เดือน ผลงานที่อุตส่าห์อดทนมา ถูกด่า ถูกดิสเครดิต เป็นรายวัน ด้อยค่าทุกวัน ทุกอย่างจะดีขึ้น คนก็จะได้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมามันบังเกิดผลขึ้นมาแล้ว ประคับประคองอยู่ให้ครบเทอม ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ทำมาดีๆ แล้วอย่าให้เกิดการสะดุด อย่าให้อะไรมากีดกั้น การเมืองในอนาคตหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้เราต้องกอดคอกันพาประเทศให้รอดกันไปก่อน” จาก “ลุงกำนัน” ถึง “ลุงตู่”
๐ ไม่ใช่แค่เพื่อไทยที่ดี๊ด๊า ฟาก “เศรษฐกิจไทย” ก็ฮึกเหิมไม่แพ้กัน หวนจูบปากกับ “นายใหญ่” ตะเพิดหัวหน้าอุปโลกน์พ้นทาง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หัวหอกตัวจริงผงาดคุมเองซะที สร้างโลกใบใหม่ที่ไม่มี พปชร. ต่อให้หักกับบิ๊กน้อยน้องรักของ “บิ๊กป้อม” แต่ใช่ว่าสายสัมพันธ์ระหว่าง “ธรรมนัส” กับ “บิ๊กป้อม” จะขาดสะบั้น จะว่าไปอย่างน้อยตอนนี้หัวหน้า พปชร.ก็พูดได้เต็มปากว่าเศรษฐกิจไทยสั่งไม่ได้แล้วนะ ส่วนจะจริงมั้ย การเมืองต้องดูกันยาวๆ พลิกไปพลิกมาไม่รู้กี่ตลบ ที่แน่ๆ เวลานี้ก๊วนธรรมนัสมี 16 เสียง ผนึกกับพรรคเล็กภายใต้การนำ “พิเชษฐ สถิรชวาล” หัวหน้าแก๊ง 16 ล่าสุดที่เปิดรายชื่อมีถึง 18 ส.ส. แต่งงไม่ยักมี “เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่ม 16 ถึงเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เหลือพรรคจิ๋ว แต่ช่วงปลายรัฐบาลหลายเสียงของพรรคเล็กช่างมี (มูล) ค่า โดยเฉพาะโหวตแมตช์สำคัญ ประเดิมลงมติรับหลักการวาระแรก ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 สัปดาห์หน้า กล้วยสะพัดแน่
๐ นับถอยหลังโควิด “โรคประจำถิ่น” กลางเดือนหน้า กระทรวงสาธารณสุขพูดชัดประเดิมถอดหน้ากากอนามัย 31 จังหวัด คือ โซนสีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวัง 14 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ตราด นครพนม น่าน บุรีรัมย์ พิจิตร อ่างทอง มหาสารคาม ยโสธร ลําปาง สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานี อํานาจเจริญ กับโซนสีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา จังหวะเวลาปะเหมาะ 2 สัปดาห์หลังเปิดสถานบันเทิง น่าจะพอเห็นตัวเลขติดเชื้อ ถ้ากลับมาดีดอีกรอบ ก็ต้องวัดใจ ศบค. ยังจะรีบร้อนไฟเขียวให้ถอดแมสก์มั้ย ในเมื่อคลายล็อกกิจการกิจกรรมต่างๆ หมดแล้ว แค่จะคงมาตรการป้องกันไว้สักอย่างไม่ได้เชียวหรือ ถึงจะพยายามด้อยค่าโควิดคล้ายไข้หวัด ฉีดวัคซีนติดแล้วไม่ถึงตาย แต่ไม่ได้การันตีเรื่อง “ลองโควิด” ระดับอาจารย์หมอในประเทศไทยหลายคนก็เตือนเรื่องนี้ ผลวิจัยของต่างประเทศก็ชี้ชัดว่าอาการลองโควิดส่งผลกระทบต่อทุกระบบในร่างกายของผู้ที่เคยติดเชื้อตั้งแต่หัวจรดเท้า ขึ้นอยู่กับว่าจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหนหรือยาวนานต่างกันไป ตรงนี้ระบบสาธารณสุขเตรียมไว้หมดแล้วหรือยัง ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ยังผวากลัวติดเจ้าโรคนี้ รบกวนฝาก “เจ้ากระทรวง” พิจารณาให้ถี่ถ้วนด้วยว่า ถึงเวลาปลดหน้ากากแล้วจริงหรือ!.
ลี้คิมฮวง
