จับสาวลักเครื่องสูบน้ำขายร้านของเก่า พบประวัติไม่ธรรมดา ก่อเหตุทั่วภาคกลาง
วันที่ 22 ธ.ค.65 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธีร์ธวัต ธุระกิจ ผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.ขัชพิมุข มีมุข รองผบก.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.สส.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.ท.สิรภพ กายพันธ์ รองผกก.สส.ภ.จว.ชัยนาท พ.ต.ต.พีระพงษ์ อุทัยธรรม สว.กก.สส.ภ.จว.ชัยนาท และชุดสืบสวนจ.ชัยนาท ร่วมกันจับกุมน.ส.อโณชา อายุ 46 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางเครื่องยนต์สูบน้ำ 3 เครื่อง รถกระบะโตโยต้า จับกุมได้หลังนำหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐมที่ ค 991/65 ลงวันที่ 21 ธ.ค.65 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งเปิดเป็นร้านขายของเก่า ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. และวันที่ 16 ธ.ค. มีเหตุลักทรัพย์เครื่องยนต์การเกษตรเป็นเครื่องสูบน้ำในเขตพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท ชุดสืบสวนจ.ชัยนาท ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่าคนร้ายใช้รถกระบะก่อเหตุลักทรัพย์ ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า เมื่อคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ใน จ.ชัยนาท ได้แล้วจะนำมาขายที่ร้านของเก่าแห่งหนึ่ง ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จนกระทั่งวันที่ 20 ธ.ค. ชุดจับกุมลงพื้นที่ อ.กำแพงแสน เพื่อสืบสวนหาข่าว เกี่ยวกับเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว และพบรถกระบะของผู้ก่อเหตุมาจอดบริเวณหน้าร้าน หลังจากนั้นพบน.ส.อโณชา ลงจากรถมาพูดคุยกับพนักนักงานในร้าน จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบพบเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างมีพรรคพวกให้เอามาขายให้ โดยเอาเครื่องสูบน้ำมาจากจ.ขอนแก่น มาซ่อมขาย โดยโทรคุยกับลูกชายอ้างว่าเครื่องสูบน้ำอยู่ในรถมานานแล้ว แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและพ้นโทษคดีลักทรัพย์มา 10 ปี จากข้อมูลการสืบสวนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุโจรกรรมมาจากเขตพื้นที่ จ.ชัยนาท จากการตรวจสอบพบว่ามีเหตุคนร้ายลักทรัพย์เครื่องยนต์การเกษตรบริเวณทุ่งนา หมู่ 2 ต.วังไก่เถื่อน จ.ชัยนาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบร้านขายของเก่าดังกล่าวพบมีเครื่องสูบน้ำอีก 2 เครื่องที่ผู้ก่อเหตุนำมาขาย โดยคาดว่าน่าจะทำเป็นขบวนการก่อเหตุเตรียมขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากเชื่อว่าต้องมีคนมาดูพื้นที่และปักจีพีเอสให้มาก่อเหตุ ส่วนใหญ่มักก่อเหตุในพื้นที่ภาคกลางคาดว่าน่าจะก่อเหตุในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง โดยราคานำไปขายมือสอง 7,000 – 8,000 บาท โดยร้านอาจจะขายได้ถึง 20,000 บาท เพราะราคามือหนึ่งราคาจริงเครื่องละ 50,000 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเกษตรกรเป็นอย่างมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมน.ส.อโณชา ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์เครื่องมือการเกษตรหรือรับของโจร นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หันคา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย