เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 5 โดย ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 โดยได้ใช้เครื่องจักรกลประเภท รถแบ๊คโฮลงโป๊ะ จำนวน 1 ชุด เข้ากำจัดวัชพืชประเภทหยั่งรากลึก เช่น ต้นไมยราบน้ำ หญ้าขน เป็นต้น ขึ้นหนาแน่นบริเวณคลองเหมือง ในพื้นที่ ตำบลวังกระโจม อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ซึ่งมีวัชพืชสะสมบริเวณริมคลองและมีสิ่งกีดขวางทางน้ำทำให้คลองตื้นเขิน และสร้างความลำบากแก่ประชาชน มีวัชพืชสะสมประมาณ 32,375 ตัน ซึ่งได้กำจัดวัชพืชไปแล้ว ประมาณ 2,500 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในเดือนเมษายนนี้ และใช้เครื่องจักรกลประเภท รถขุดไฮดรอลิค จำนวน 2 ชุด เข้ากำจัดวัชพืชประเภทหยั่งรากลึก เช่น ต้นไมยราบน้ำ ต้นไมยราบยักษ์ หญ้าน้ำพุ หญ้าขน ขึ้นหนาแน่นบริเวณคลองส่งน้ำฝั่งซ้าย สาย 1 ในพื้นที่ ตำบลวังกระโจม อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก มีวัชพืชสะสมประมาณ 23,625 ตัน ปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
วันเดียวกันนี้ นายสุพิศยังได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 5 โดยใช้เครื่องจักรกลประเภท เรือขุด แบบ แบ๊คโฮลงโป๊ะ จำนวน 4 ชุด เข้าขุดลอกคลองบริเวณคลองส่งน้ำสายใหญ่อนุศาสนนันทน์ (ชัยนาท-ป่าสัก) ในเขตพื้นที่ ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ตั้งแต่ กม.24+000 ถึง กม.32+990 (8.990 กม.) เนื่องจากคลองส่งน้ำสายใหญ่อนุศาสนนันทน์ (ชัยนาท-ป่าสัก) มีตะกอนดินตกจมทำให้คลองตื้นเขิน อีกทั้งมีวัชพืชผิวน้ำและต้นไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้การบริหารจัดการน้ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้ชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมและที่สัญจรทางน้ำเดือนร้อน โดยมีปริมาณดินที่ต้องขุดลอกประมาณ 280,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ ให้เพื่อการเกษตรในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และเพื่ออุปโภค-บริโภค ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 55%
ทั้งนี้นายประพิศ เปิดเผยว่าได้เร่งรัดให้สำนักงานชลประทานและสำนักเครื่องจักรกลเร่งดำเนินการเก็บวัชพืชโดยเฉพาะผักตบชวาให้เสร็จโดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาจากการมีสิ่งกีดขวางในการระบายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคของประขาชน พร้อมทั้งเพื่อเป็นการเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำใช้ในการผลักดันน้ำเค็มที่กำลังรุกขึ้นสูงในขณะนี้