วันพฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก และพบปะกลุ่มเกษตรกร พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าว ที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ว่าจากสภาพอุทกภัยช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักของลุ่มเจ้าพระยาที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงกำหนดพื้นที่เป้าหมายการทำนาปรังของพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง โดยที่ จ.ลพบุรี มีพื้นที่เป้าหมายการทำนาปรัง 3 ทุ่ง ได้แก่ 1.ทุ่งท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง 2.ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก และ 3. ทุ่งบางกุ่ม อ.เมือง จ.ลพบุรี 119,555 ไร่
เพาะปลูกแล้วรวม 110,904 ไร่ หรือ 93% เก็บเกี่ยวแล้ว 32,227 ไร่ หรือ 29% คาดว่าจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จภายในต้นเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากกรมชลประทานมีแผนปรับปฏิทินการเพาะปลูกข้าวนาปีของพื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 10 ทุ่งของลุ่มเจ้าพระยา ให้ทันการเก็บเกี่ยวต้นเดือนกันยายน 2565 โดยพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังที่รับน้ำจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าปากคลองสะพานขาว ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สถานีสูบน้ำฯ ของพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก (มีกลุ่มผู้ใช้น้ำ 8 กลุ่ม) มีการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำนวน 2,400 ไร่เก็บเกี่ยวแล้ว 1,800 ไร่ หรือ 75%
สำหรับสภาพโดยทั่วไปของพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก จะมีความลาดเทเข้าหาตัวคลองชัยนาท-ป่าสัก ดังนั้น ในช่วงฤดูน้ำหลาก จะมีน้ำป่าจากพื้นที่ตอนบน ได้แก่ พื้นที่ อ.โคกเจริญ อ.สระโบสถ์ อ.หนองม่วง และ อ.โคกสำโรง ไหลลงมาปะทะแนวคันคลองชัยนาท-ป่าสัก และเกิดน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรในเขต อ.บ้านหมี่ ซ้ำซากอยู่เป็นประจำทุกปี เพราะพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำกว่าบริเวณอื่น และไม่สามารถระบายน้ำท่วมขังลงคลองชัยนาท-ป่าสักได้ เนื่องจากช่วงระยะเวลาดังกล่าว คลองชัยนาท-ป่าสัก จะมีน้ำ Side Flow และต้องรับน้ำจาก แม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาสมทบเกือบตลอดเวลา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน และจังหวัดลพบุรี จึงได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยก่อสร้างสถานีสูบน้ำริมคลองฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสักเมื่อปี 2555-2556 เพื่อสูบระบายน้ำท่วมขังลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก 16 สถานี สามารถระบายน้ำได้วันละ 7.430 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) รวมถึงการปรับปฏิทินการเพาะปลูกข้าวนาปีของพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสัก 72,680 ไร่ โดยส่งน้ำให้เกษตรกรทำนาปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ทันเก็บเกี่ยวต้นเดือนกันยายนของทุกปี จากนั้นจะใช้ทุ่งดังกล่าวรับน้ำหลากที่ไหลลงมาจากพื้นที่ตอนบนในลักษณะแก้มลิงธรรมชาติ พื้นที่ 72,680 ไร่ตัดยอดน้ำหลาก 116 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ ยังมีการจัดจราจรน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก ให้สอดคล้องกับช่วงระยะเวลาที่น้ำป่าไหลหลากลงมา และเร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ตอนบน อาทิ ก่อสร้างแก้มลิง และอ่างเก็บน้ำ
เพื่อตัดยอดน้ำหลากที่จะไหลหลากลงมาและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง โดยมีแผนระยะยาวที่จะเร่งรัดการดำเนินงานโครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ให้สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 930 ลบ.ม./วินาที เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ฝั่งซ้ายของคลองชัยนาท-ป่าสัก