ภูมิภาค
ตำรวจทางหลวงรวบหนุ่ม ขับเก๋งสวมทะเบียนปลอม หลังสาวเจ้าของรถโร่แจ้งความ เจอใบสั่งรวม4 ใบ
วันอังคาร ที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 20.09 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อเวลา 15.45น.วันที่ 1 มิถุนายน2564 พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.อยุธยา ร.ต.ท.ประธานจตุพันธ์ รองสว.ป.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.อยุธยา ร.ต.ท.ธีรยุทธ วันโสภา รองสว.ป.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.อยุธยา ร.ต.ต.บุรพล เมืองซ้าย ผบ.หมู่ส.ทล.1กก.1บก.ทล. ส.ต.อ.กิตติศักดิ์ อาตนะทอง ผบ.หมู่ทล.1กก.1บก.ทล.อยุธยา ร่วมกันจับกุมตัวนายสันติชัย ทรัพย์อินทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 263 ถนนเทศบาล2 ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรีพร้อมด้วยของกลางรถยนต์เก๋งนี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นมิราจสีดำ สวมทะเบียน 1ขก-2394กทม.จำนวน1คัน ป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี กุญแจรถ ขณะผู้ต้องหาขับรถอยู่ได้บนถนนพหลโยธินขาออกหลักกม.ที่82 ต.หนองแค อ.หนองแคจ.สระบุรี โดยตตั้งข้อกกล่าวหาว่า ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม
พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.อยุธยา เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ผู้ใช้รถยนต์เจ้าของทะเบียน 1ขก-2394กทม.ซึ่งเป็นรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นมิราจสีดำได้รับใบสั่งข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ในพื้นที จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ และจ.ลพบุรี รวม4ใบตั้งแต่ต้นปี2564เป็นต้นมา โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ขับรถไปในพื้นที่ดังกล่าวคาดว่ารถยนต์ถูกสวมทะเบียน จากนั้นผู้เป็นเจ้าของได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะอินเพราะเกรงว่าจะมีการทำแผ่นป้ายทะเบียนไปสวมใส่แล้วก่อเหตุร้ายทำให้เกิดความเสียหาย และเข้าให้ข้อมูลของรถยนต์ตนเองกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพื่อนำข้อมูลของรถยนต์คันดังกล่าวเข้าระบบเพื่อเฝ้าระวังติดตามจับกุมรถยนต์คันที่สวมทะเบียน กระทั่งวันนี้สามารถจับกุมไว้ได้ขณะนายสันติชัย ทรัพย์อินทร์ อายุ35ปี ผู้ขับขี่ขับอยู่บนถนนพหลโยธินขาออกกม.82 ต.หนองแค อ.หนองแคจ.สระบุรี โดยสวมแผ่นป้ายทะเบียนของผู้เสียหาย จึงเรียกให้หยุดรถก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวนและประสานผู้เสียหายเข้าตรวจสอบโดยผู้ต้องหาให้การว่า ยืมรถเพื่อนมาจากจ.สระบุรี โดยจะขับไปมาจ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้หากท่านใดเป็นผู้เสียหายและถูกสวมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพื่อทำการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
น.ส.มณฑา สีทอง อายุ 40ปี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า รถยนต์มิตซูบิชิรุ่นมิราจสีดำ สวมทะเบียน 1ขก-2394กทม.ตนเองซื้อมามือสองในราคาประมาณ260,000บาทและผ่อนชำระกับไฟแนนซ์เป็นเวลา5ปี และเริ่มโดนใบสั่งข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ในหลายพื้นที่ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ขับรถไป จึงแจ้งความไว้ที่สภ.บางปะอินและเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจทางหลวงอยุธยาเพื่อติดตามจับกุมรถสวมทะเบียน พร้อมกับประสานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานบริษัทไฟแนนซ์เพื่อขอเปลี่ยนทะเบียนใหม่ พร้อมกับชำระค่าขอเปลี่ยนป้ายทะเบียนไปกับบริษัทไฟแนนซ์แล้วเพราะกลัวความไม่ปลอดภัยหากคนร้ายนำไปก่อเหตุและเกิดความเครียดเป็นอย่างมาก กระทั่งได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาว่าได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ที่สวมทะเบียนเดียวกับรถยนต์ตนเองได้แล้วจึงเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ช่วยเหลือประสานชนและรู้สึกโล่งใจ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่เพราะทำเรื่องกรอกเอกสารพร้อมชำระเงินให้กับบริษัทไฟแนนซ์ไปแล้ว.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่