เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 5 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 5 สำนักเครื่องจักรกล เข้าเปิดทางน้ำ โดยใช้เครื่องจักรกลประเภท รถขุดไฮดรอลิค จำนวน 1 ชุด เข้ากำจัดวัชพืชประเภทหยั่งรากลึก เช่น ต้นไมยราบยักษ์ หญ้าขน หญ้าน้ำพุ เป็นต้น ขึ้นหนาแน่นบริเวณริมคลองชัยนาท-อยุธยา ในเขตพื้นที่ ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ซึ่งทำให้น้ำไหลไม่สะดวก สร้างความลำบากแก่ประชาชน มีวัชพืชสะสมประมาณ 33,262 ตัน ซึ่งได้กำจัดวัชพืชไปแล้ว ประมาณ 10,500 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในเดือนมีนาคม
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าเนื่องจากมีวัชพืชและผักตบชวาไหลเพิ่มเข้ามาสะสมอย่างต่อเนื่องความหนาแน่นของวัชพืชจึงมีเพิ่มขึ้น จึงกำชับให้สำนักเครื่องจักรกล เร่งดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเร็วที่สุด
วันเดียวกันนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของ ฝ่ายเครื่องจักรกลเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืชที่ 6 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 6 ได้นำเรือกำจัดวัชพืชชนิดแบ็คโฮว์ลงโป๊ะ จำนวน 1 ลำพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินงานกำจัดวัชพืชและผักตบชวา คลองญี่ปุ่นใต้ตำบลนิลเพชร อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา พระยาบรรลือ สำนักงานชลประทานที่ 11 ปริมาณวัชพืช 24,900 ตัน ดำเนินการแล้ว 25% เพื่อบรรเทาภัยอันเนื่องมาจากน้ำให้กับประชาชน และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้ผักตบชวาแพร่ขยายพันธุ์ของผักตบชวา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้เช่นเดียวกัน